แห่ประณาม โมร็อกโก ฆ่าหมาจรจัด 3 ล้านตัว เตรียมเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2030

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชั้นนำประณามโมร็อกโกและเรียกร้องให้ฟีฟ่าดำเนินการอย่างไม่ควรเพิกเฉย กรณีการสังหารสุนัขจรจัด 3 ล้านตัว เพื่อรับมือเป็นเจ้าภาพ การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2030

นักอนุรักษ์ กล่าวอ้างว่า ปฏิบัติการฆ่าหมาจรจัดอันโหดร้าย เป็นการล้างเมือง เพื่อให้ภายในเมืองดูดีสะอาดตา รองรับแฟนบอลที่เข้ามาเยือนอย่างคับคั่ง รายงานระบุว่า สุนัขจรจัดหลายพันตัวถูกฆ่าในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศแอฟริกาเหนือ โดยเกรงว่า การสังหารนี้จะทวีความรุนแรงมากขึ้น

เจน กูดดอลล์ นักรณรงค์เพื่อสิทธิสัตว์ชื่อดัง ได้เขียนจดหมายถึง เลขาธิการสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินการเรื่องดังกล่าวทันที โดยกล่าวหาว่าสมาคมฯ เพิกเฉยต่อ “การกระทำอันแสนโหดร้าย”

ในจดหมายระบุว่า เธอรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง เมื่อเห็นว่าทางการโมร็อกโกมีส่วนร่วมในการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ ที่โหดร้ายทารุณที่สุดเท่าที่จินตนาการได้ ซึ่งเป็นความพยายามที่ถูกกล่าวหาว่า ยุติลงตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 แต่ดูเหมือนว่าทางฟีฟ่าจะเพิกเฉยต่อมัน

ขณะเดียวกัน ด้านนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ ได้ตั้งคำถามว่า แฟนบอลทั่วโลกจะมีปฏิกิริยาอย่างไร หากพวกเขารู้ว่าสัตว์ที่ไร้ทางสู้เหล่านี้ต้องเผชิญความโหดร้ายในช่วงก่อนการแข่งขันที่จัดขึ้นในปี 2030 ที่จะถึงนี้

ขณะเดียวกัน ด้านนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ ได้ตั้งคำถามว่า แฟนบอลทั่วโลกจะมีปฏิกิริยาอย่างไร หากพวกเขารู้ว่าสัตว์ที่ไร้ทางสู้เหล่านี้ต้องเผชิญความโหดร้ายในช่วงก่อนการแข่งขันที่จัดขึ้นในปี 2030 ที่จะถึงนี้

ยิ่งไปกว่านั้น มันยังทำให้ฟีฟ่าต้องตกอยู่ภายใต้ความสนใจอีกครั้ง ฉันรู้ว่าคุณทำงานหนัก เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของฟีฟ่าหลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ดำเนินการใดๆ ฟีฟ่าจะต้องเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดในเหตุการณ์โหดร้ายนี้ – อยู่ภายใต้การดูแลของคุณ

‘ฉันขอเรียกร้องอย่างยิ่งให้คุณทำให้แน่ใจว่าการสังหารจะต้องหยุดลง รวมทั้งแจ้งให้โมร็อกโกทราบว่าการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันจะถูกระงับจนกว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้น’

ยิ่งไปกว่านั้น มันยังทำให้ฟีฟ่าต้องตกอยู่ภายใต้ความสนใจอีกครั้ง ฉันรู้ว่าคุณทำงานหนัก เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของฟีฟ่าหลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ดำเนินการใดๆ ฟีฟ่าจะต้องเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดในเหตุการณ์โหดร้ายนี้ – อยู่ภายใต้การดูแลของคุณ

‘ฉันขอเรียกร้องอย่างยิ่งให้คุณทำให้แน่ใจว่าการสังหารจะต้องหยุดลง รวมทั้งแจ้งให้โมร็อกโกทราบว่าการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันจะถูกระงับจนกว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้น’

มีทางเลือกอื่นๆ มากมายที่เป็นธรรมในการควบคุมประชากรสุนัขจรจัด และมีองค์กรระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียงหลายแห่งที่ยินดีให้ความช่วยเหลือทางการโมร็อกโกในการดำเนินการตามโปรแกรมดังกล่าว

นักอนุรักษ์ ได้เปิดโปงวิธีการกำจัดสุนัขจรจัดของโมร็อกโกอย่างน่าสยองว่า สุนัขถูกวางยาพิษด้วยสตริกนิน โดยฉีดเข้าร่างกายโดยตรง หรือให้อาหารผ่านเหยื่อล่อ รวมถึงมีรายงานว่า มีคนใช้ปืนลาดตระเวนตามท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง ยิงสัตว์ และมักปล่อยให้สัตว์ได้รับบาดเจ็บจนตายอย่างทรมาน

นอกจากนี้ มีรายงานว่าสุนัขตัวอื่นๆ ถูกจับโดยใช้เครื่องมือหนีบ โยนใส่รถบรรทุก และขนส่งไปยังสถานที่ซึ่งพวกมันถูกฆ่าอย่างทารุณ

กลุ่มพันธมิตรอ้างว่านับตั้งแต่ฟีฟ่าประกาศประเทศที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2023 การสังหารหมู่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ว่าทางการโมร็อกโกจะอ้างในเดือนสิงหาคม 2024 ว่าแผนดังกล่าวถูกระงับแล้วก็ตาม

ฟีฟ่ายังไม่ได้ตอบสนองต่อข้อกล่าวหานี้ แต่บรรดานักวิจารณ์เตือนว่า องค์กรอาจประสบกับหายนะทางด้านประชาสัมพันธ์ได้ หากเพิกเฉยต่อคำกล่าวหาเหล่านี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *