ชายชาวไต้หวันพบว่าเป็น “มะเร็ง 4 ชนิดพร้อมกัน” แต่ไม่ยอมแพ้! ยึดมั่นทำสิ่งเดียว จนสามารถกำจัดก้อนมะเร็งได้หมด
ตามรายงานจาก Chinatimes ชายชาวไต้หวันวัย 58 ปี ชื่อ คุณเซี่ยจวิน ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการเจ็บคอและพบว่ามีอาการบวมผิดปกติบริเวณลำคอที่เป็นมานานกว่า 8 เดือน ปรากฏว่าเขากลับได้รับช็อกว่า… ตนเองเป็นมะเร็ง 4 ชนิดพร้อมกัน!
ดร.หลิน จวิ้นอวี่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งทางเดินอาหาร โรงพยาบาลไถจง ประเทศไต้หวัน เล่าว่า หลังตรวจกล่องเสียงและทำการส่องกล้องผ่านแผนกหู-คอ-จมูก พบว่าเขาเป็นมะเร็งบริเวณโคนลิ้น (ระยะที่ 3) ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการบวมและเจ็บคอ
ต่อมา หลังจากตรวจอัลตราซาวด์พบว่าเขายังมีมะเร็งไทรอยด์ชนิดพาพิลารี่ (Papillary Thyroid Cancer) รวมถึงเมื่อทำการตรวจร่างกายเพิ่มเติม พบว่าเขายังมีมะเร็งลำไส้ใหญ่ (บริเวณซิกมอยด์) และมะเร็งไตอีกด้วย
ดร.หลินกล่าวว่า “ผู้ป่วยรายนี้เป็น มะเร็งชนิดปฐมภูมิ (primary cancer) ทั้ง 4 ชนิด ซึ่งแยกจากกันโดยสิ้นเชิง ไม่ได้แพร่กระจายจากที่ใด ถือว่าเป็นเคสที่หายากมาก โอกาสเกิดต่ำกว่า 0.1%”
ตอนแรกคุณเซี่ยจวินรู้สึกตกใจและหมดหวัง แต่หลังได้รับคำแนะนำและกำลังใจจากแพทย์ เขาก็ตัดสินใจเข้ารับการรักษาเต็มที่ โดยร่วมมือกับทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยเบื้องต้น เขาเป็นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหลายอย่าง ได้แก่
- ความดันโลหิตสูง
- เบาหวานชนิดที่ 2
- สูบบุหรี่มานานกว่า 30 ปี
- ดื่มสุราเป็นประจำ
- มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง (พ่อเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร / แม่เสียชีวิตจากมะเร็งสมอง)
ทีมแพทย์จึงจัดประชุมร่วมหลายสาขาเพื่อวางแผนการรักษาอย่างรอบคอบ สรุปแผนรักษาอย่างเป็นขั้นตอนคือ เนื่องจากมะเร็งลิ้นอยู่ระยะที่ 3 ส่วนอีก 3 แห่งยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แพทย์จึงตัดสินใจเริ่มจากมะเร็งโคนลิ้นก่อน
- ผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งที่ลิ้นออก + ฉายแสง กระทั่งก้อนมะเร็งหายไปทั้งหมด
- เมื่อร่างกายฟื้นตัวเป็นไปได้ดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน แล้วจึงผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งไต
- ล่าสุดในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผ่าตัดต่อมไทรอยด์เพื่อตัดก้อนมะเร็งที่เหลือ
แพทย์ระบุว่าผลการรักษาน่าพอใจ กุญแจสำคัญที่ทำให้การรักษาประสบความสำเร็จ คือตรวจพบเร็ว, วางแผนการรักษาเหมาะสม และหนึ่งสิ่งที่ผู้ป่วยคนนี้ยึดมั่นทำมาเสมอคือ “ให้ความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง” ตลอดกระบวนการ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าก้อนเนื้อมะเร็งจะถูกกำจัดหมดแล้ว แต่แพทย์ยังเน้นว่าคุณเซี่ยต้องกลับมาตรวจติดตามเป็นระยะ เพื่อป้องกันการกลับมาอีกของมะเร็ง ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดหรือกลับมาของมะเร็งอีก สิ่งที่ควรทำต่อไปคือ
- เลิกบุหรี่ และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารให้เหมาะสม
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
ดร.หลิน ทิ้งท้ายว่า “มะเร็งไม่ใช่จุดจบของชีวิต หากตรวจพบแต่เนิ่น ๆ และได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ความหวังยังมีเสมอ ผู้ป่วยไม่ควรตื่นตระหนกหรือสิ้นหวัง แต่ควรสู้และร่วมมือกับแพทย์อย่างเต็มที่”
