สาวอายุแค่ 28 แต่ไตวายขั้นรุนแรงแล้ว หมอถอนหายใจ “เพราะนิสัยที่ทำมา 9 ปี”

สาววัย 28 ปี มีภาวะไตวายอย่างรุนแรงจนจำเป็นต้องฟอกไต เนื่องจากพฤติกรรมที่ทำติดต่อกันมายาวนานถึง 9 ปี

นายแพทย์หลิน เจิ้งฮ่าว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไต แห่งโรงพยาบาลทั่วไปหยวน ในเกาสง ไต้หวัน ได้เปิดเผยกรณีผู้ป่วยรายนี้ผ่านสื่อ โดยระบุว่า ผู้ป่วยชื่อ เสี่ยวถัง อายุ 28 ปี เข้ามารับการตรวจเนื่องจากมีอาการผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูงขาบวม และ ปัสสาวะเป็นฟอง

ผลการตรวจและห้องปฏิบัติการพบว่า ไตทั้งสองข้างของเธอมีภาวะฝ่อลีบและไตแข็งตัว (Fibrosis) แพทย์จึงวินิจฉัยว่าเธอเป็น ไตวาย (Chronic Kidney Failure) และต้องเข้ารับการ ฟอกไตเทียม (Hemodialysis) ในที่สุด

แพทย์ชี้ชัด สาเหตุหลักของโรค

เมื่อสอบถามประวัติการป่วยของเสี่ยวถัง นายแพทย์หลิน เจิ้งฮ่าว พบว่า ผู้ป่วยเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ตั้งแต่เมื่ออายุเพียง 19 ปี อย่างไรก็ตาม เสี่ยวถังไม่ได้ใส่ใจในการรักษา เพราะคิดว่าตนเองยังอายุน้อยและร่างกายแข็งแรงดี

ในช่วง 9 ปี นับตั้งแต่ได้รับการวินิจฉัย เธอจึงยังคงใช้ชีวิตและ รับประทานอาหารตามใจปาก อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริโภค ของทอด และ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เป็นประจำ

แพทย์ระบุว่า นิสัยการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่นนี้เอง ที่ทำให้ ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยพุ่งสูง และเร่งให้โรคเบาหวานของเธอเข้าสู่ขั้นรุนแรง จนกลายเป็น ภาวะแทรกซ้อนไตวาย ในที่สุด

คำอธิบายทางการแพทย์ถึงกลไกทำลายไต

นายแพทย์หลิน เจิ้งฮ่าว อธิบายว่า หากผู้ป่วย เบาหวานชนิดที่ 2 ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี น้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่ตลอดเวลาจะสร้าง สารอนุมูลอิสระ (Oxidants) ที่เข้าไปทำลายทั้งหลอดเลือดฝอยและระบบประสาท รวมถึง หลอดเลือดฝอยที่ไต (Glomerular Capillaries) ด้วย

นอกจากนี้ ระดับน้ำตาลที่สูงยัง บีบให้ไตต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อกรองสารอันตรายออกจากเลือด การทำงานหนักซ้ำ ๆ เป็นเวลานานนี้เองที่ทำให้เนื้อเยื่อไตได้รับความเสียหาย เกิด ภาวะไตแข็งตัวเป็นพังผืด (Fibrosis) และนำไปสู่ ภาวะไตวาย ในที่สุด เมื่อไตเกิดการฝ่อลีบแล้ว ผู้ป่วยก็มีทางเลือกเพียง การฟอกไต หรือ การปลูกถ่ายไต เพื่อประคับประคองชีวิตไว้

ผู้เชี่ยวชาญยังระบุอีกว่า จากผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยที่เริ่มเป็นโรคเบาหวานตั้งแต่อายุยังน้อย (ต่ำกว่า 40 ปี) จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิด ภาวะแทรกซ้อนไตวาย ภายใน 8-10 ปี ข้างหน้า หากไม่เข้ารับการรักษาเบาหวานอย่างเคร่งครัดและจริงจัง

คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

นายแพทย์หลิน เจิ้งฮ่าว ได้แนะนำวิธีป้องกันโรคเบาหวานและภาวะไตวายว่า ทุกคนควรสร้าง โภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ โดย

  • เพิ่มการบริโภค ผักและผลไม้สดให้มากขึ้น ซึ่งอุดมด้วยใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน (A, B, C, E, K) และแร่ธาตุที่สำคัญ (เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และเหล็ก)
  • จำกัดการบริโภค อาหารที่มีปริมาณ น้ำตาล เกลือ และไขมันสูง

นอกจากนี้ ทุกคนจำเป็นต้อง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การทำเช่นนี้จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ป้องกันโรคอ้วน ช่วยควบคุมความดันโลหิต และลดไขมันในเลือด ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันโรคเบาหวานและช่วย ปกป้องไต ให้แข็งแรง