ชาวนาสีคิ้ว เมินคำเตือนงดทำนาปรัง ถ้าไม่ทำอดตาย เลี่ยงไม่ได้ ยึดอาชีพเดียวเลี้ยงครอบครัว

นครราชสีมา “รู้ว่าเสี่ยงแต่ต้องทำ” ชาวนาสีคิ้ว ไม่สนคำเตือนงดทำนาปรัง ถามกลับไม่ทำเอารายได้จากไหน ตอบชัดทราบถึงสถานการณ์น้ำลำตะคองเหลือน้อย หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยึดอาชีพเดียวทำนา ถ้าไม่ทำ อดตายแน่ ขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว

16 ม.ค. 68 – ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังพื้นที่การเกษตร ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรที่อยู่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำตะคอง

โดยพบว่ายังมีการสูบน้ำเข้านา เพื่อทำนาปรังอยู่ ถึงแม้ว่าทางหน่วยงานราชการจะมีการขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดทำนาปรัง เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคองนั้นมีปริมาณน้อย

ซึ่งจากการสอบถามเกษตร พบว่า สาเหตุที่ต้องทำก็ เพราะว่าถ้าไม่ทำนั้นจะขาดรายได้ในการดูแลครอบครัว

นายโกเมศน์ ญาติจันทึก เกษตรในพื้นที่ บอกว่า ตนทราบถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคองเป็นอย่างดี ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร แต่ตนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำนาปรังได้ เพราะตนมีแค่อาชีพนี้เพียงอาชีพเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ทำก็ขาดรายได้ ที่สำคัญการทำนาปรังตนนั้น ไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ทำนา เสียแค่เพียงการทำนาปีเท่านั้น

นอกจากนี้ ตนก็รู้ว่า การทำนาปรังในช่วงนี้ เสี่ยงต่อการขาดทุน แต่เนื่องจากต้นทุนในการทำนานั้นเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมัน รวมไปถึงค่าแรง อีกทั้งราคาข้าวยังตกต่ำ แต่ถึงอย่างนั้นตนก็ต้องทำ เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว เพราะถ้าไม่ทำอดตายแน่

ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 84.169 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 26.76 เปอร์เซ็นต์ เหลือน้ำที่ใช้การได้ 61.449 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 21.06 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางชลประทานได้มีการคาดการณ์เอาไว้แล้วว่า ปริมาณน้ำที่เหลือนั้น สามารถใช้ในช่วงฤดูแล้งปีนี้ได้อย่างแน่นอน