หมอมานพแชร์เคสตัวอย่าง มะเร็งปอดอายุน้อย ไม่สูบบุหรี่ พบบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ และสัมพันธ์กับ PM 2.5 ร่วมส่งกำลังใจให้คุณแพร สู้กับมะเร็งปอดระยะที่ 4 ขณะนี้อยู่ระหว่างฟังผลตรวจชิ้นเนื้อเพื่อดูว่าเซลล์มะเร็ง จะตอบสนองกับยาพุ่งเป้าตัวไหน หมอบอกว่า ยาที่มีตอนนี้รักษาให้ผลได้ดีมาก
วันนี้ (1 เม.ย.68) ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำ ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งที่เล่าประสบการณ์การป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4 ในวัยเพียง 41 ปี หมอมานพ ระบุว่า เป็นอีกตัวอย่างของคนไข้มะเร็งปอด อายุน้อย ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งพบบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ และสัมพันธ์กับ PM2.5
คุณแพร ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี เพจ Prae Salil ได้โพสต์เรื่องราวในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 41 ของแพร และในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ แพรตั้งใจเปิดเพจนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นวิทยาทาน โดยมีความตั้งใจที่จะแบ่งปันประสบการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับโรคมะเร็งปอดที่กำลังรักษาโดยขอเล่าเรื่องราวต่าง ๆ แบบสบาย ๆ และอยากบันทึกเก็บเอาไว้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ ในอนาคต
ข้อความตอนหนึ่งจากเพจ Prae Salil คุณแพรเล่าถึงจุดเริ่มต้นของอาการ คือเมื่อเดือน พ.ย. ปี 67 ที่ผ่านมา ตอนนั้นเป็นช่วงเดียวกับฤดูกาลฝุ่น PM 2.5 คุณแพรเริ่มมีการไอแห้ง ๆ นิดหน่อย รวมถึงมีอาการเหมือนแพ้อากาศทั่วไป คือจาม คันยุบยิบตามหน้า ตาแห้ง เป็น ๆ หาย ๆ ตามระดับฝุ่น แต่อยู่ ๆ ก็มีอาการเจ็บคอ แบบเจ็บมากเวลากลืนน้ำลาย เหมือนมีดบาด เจ็บแบบตอนที่เป็น covid แต่ตรวจ ATK ก็ไม่ขึ้น จากนั้นอาการก็เริ่มหาย จึงคิดว่าช่วงนั้นอากาศไม่ดี และการดำเนินชีวิตปกติคุณแพรออกกำลังกายเป็นประจำ ดูแลอาหารการกินอยู่เสมอ
เช้าวันหนึ่ง คุณแพรคลำพบสิ่งผิดปกติ บริเวณเหนือไหปลาร้าด้านซ้าย แล้วรู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิม มันไม่เหมือนกับอีกข้าง มันจับไปแแล้วมีความปูด ๆ แข็ง ๆ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเจ็บตรงก้อน แล้วช่วงนั้นก็ยังคงไออยู่เหมือนเดิม แต่ยังไม่ได้ไปหาหมอ ซื้อยาแก้ไอมากินเองอยู่ 2สัปดาห์ จนใกล้จะหาย แต่ PM 2.5 ก็กลับมารุนแรงอีก จึงกลับมาไอต่อ ตอนนั้นยังคงออกกำลังได้ตามปกติ กระทั่งมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อ ฝั่งคอซ้าย ลามลงมาแถว ๆ สะบักซ้าย หันคอลำบากก็เลยต้องกินยาคลายกล้ามเนื้อกับยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบ อยู่ 1 สัปดาห์ จนรู้สึกเริ่มดีขึ้นเลยเริ่มกลับมาออกกำลังกาย แต่อาการตึงจุดเดิม ยังไม่หายดี จึงกลับมากินยาต่อ รวมถึงยาแก้ไอ
วันที่ 24 ธ.ค.67 คุณแพรทักไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นหมอ เล่าอาการให้ฟัง ซึ่งเพื่อนก็แนะนำให้รอดูช่วงหลังจากหายไอ ก้อนมันอาจจะค่อยๆ ยุบลงเอง โดยให้รอดูประมาณ 2 สัปดาห์ เวลาผ่านไปจนเกือบ 3 สัปดาห์ ยังคงไออยู่ จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน
วันที่ 18 ม.ค.68 คุณแพรได้ตรวจสุขภาพและเอกซเรย์ปอด โดยก่อนนี้ไม่ได้ตรวจสุขภาพและ X-Ray ปอดมานานประมาณ 3 ปี วันนั้นหมอบอกว่ายังมีอาการปอดอักเสบอยู่ แต่จาก X-Ray ปอด เห็นมีก้อนอยู่ข้างซ้าย จึงแจ้งหมอว่าคลำเจอก้อนตรงเหนือไหปลาร้าข้างซ้ายเช่นกัน หมอจ่ายยาปฏิชีวนะมาให้ 1 สัปดาห์ เพื่อดูว่าก้อนตรงเหนือไหปลาร้าจะยุบลงหรือไม่ แล้วนัดมาติดตามอาการกับหมออายรุกรรม พร้อมทำนัดหมอเฉพาะไว้ให้ด้วย เมื่อก้อนไม่ยุบหมอจึงหนัดทำ CT สแกน
จากนั้นคุณแพร เริ่มสังเกตอาการตัวเองว่าเวลาหายใจละมันมีอาการแน่น ๆ จุก ๆ ตรงข้างซ้าย ตำแหน่งเดียวกับตรงที่มีก้อนที่ปอด แต่มันก็ดันตำแหน่งไปตรงกับสะบักซ้ายที่มันชอบปวดพอดี กระทั่งฟังผล CT Scan ปอด หมอแจ้งว่า ก้อนที่ปอด ลักษณะคล้ายก้อนมะเร็งมากกว่าจะเป็นวัณโรค และมีการกระจายเป็นจุด ๆ ไปปอดข้างขวาด้วย
วันที่ 6 ก.พ. ต่อมาคุณแพรได้ย้ายไปรักษาที่ รพ.ศิริราช หมอเปิด CT Scan ให้ดู พร้อมอธิบายให้เข้าใจถึงการเดินทางของก้อนเนื้อ ในปอดข้างซ้าย จนขึ้นมาเห็นจุดที่เหนือไหปลาร้าซ้ายถัดขึ้นมาด้วย ซึ่งเห็นชัดเจนเลยว่าลักษณะไม่เหมือนไหปลาร้าขวาที่ยังปกติดี และนัดผ่าตัดตรวจชิ้นเนื้อจากก้อนที่เหนือไหปลาร้า
นัดฟังผลวันที่ 14 ก.พ.68 ผลออกมาว่าเป็นมะเร็งปอด เป็นชนิดแบบที่พบในผู้หญิงเยอะ แต่หมอบอกว่าไม่ต้องกังวล ยาที่มีตอนนี้รักษาให้ผลได้ดีมาก ต่อมาคุณหมอมะเร็งปอด นัดไปคุยเรื่องผลชิ้นเนื้อ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวโรคและแนวทางการรักษา เบื้องต้นคุณหมอแจ้งว่าผลชิ้นเนื้อที่ตรวจออกมาเป็นเซลล์มะเร็งปอดชนิต Adenocarcinoma ซึ่งมะเร็งชนิดนี้เป็นโรคมะเร็งปอดชนิดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็กที่ตรวจพบบ่อยที่สุดในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปอดชนิดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็กชนิด Adenocarcinoma จะมีอายุน้อย หมอบอกว่าลักษณะการลุกลามของโรค ของคุณแพรตอนนี้ก็คือเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 เพราะว่ามะเร็งได้กระจายออกมานอกปอดแล้ว คือ มาที่ต่อมน้ำเหลืองรวมถึงเริ่มกระจายเป็นจุด ๆ ไปที่ปอดข้างขวาด้วย
เคสนี้หมอจะส่งทำ MRI สมองเพิ่มด้วย เพราะต้องดูว่ามะเร็งลุกลามไปที่สมองด้วยไหม เนื่องจากว่าโรคมะเร็งปอดชนิดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ก จุดที่แพร่กระจายไปบ่อยที่สุดคือ สมอง ตับ กระดูก ต่อมน้ำเหลือง และในระหว่างนี้ก็ต้องส่งตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะดูว่าเซลล์มะเร็งที่เราเป็นจะตอบสนองกับยาตัวไหน ซึ่งถ้าผลชิ้นเนื้อออกมาตรงกับกลุ่มยามุ่งเป้าที่รองรับอยู่ ก็สามารถใช้ยามุ่งเป้าแบบกินได้ แต่ถ้าใช้กลุ่มยามุ่งเป้าไม่ได้ก็ต้องเคมีบำบัดร่วมกับภูมิคุ้มกันบำบัด
คุณหมอถามถึงอาการ คุณแพรก็ยังรู้สึกว่าแข็งแรงปกติ ไม่เหนื่อยหอบ ไม่มีไข้ น้ำหนักไม่ลด มีแค่อาการไอคันคอน่ารำคาญอยู่เหมือนเดิม ซึ่งอาการไอพวกนี้จะหายไป หลังจากที่ได้รับยาที่ถูกกับตัวโรค ระหว่างนี้คุณหมอให้กินยาแก้ไอไปตามอาการได้ และให้เน้นอาหารสะอาด มีประโยชน์ ปรุงสุก เลี่ยงอาหารแปรรูป ออกกำลังกายได้ตามปกติเท่าที่ไหว
“คุณแพรกับสามีได้ถามคุณหมอว่า เราเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ คุณหมอตอบเรียบง่ายแต่ช่วยดึงสติได้ดีมากว่า “ทุกคนต้องตาย อาจจะด้วยการเจ็บป่วย หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่จากสภาพร่างกายของคนไข้ คือยังแข็งแรงมาก เรายังมีหนทางรักษาได้”
หลังจากนี้คุณแพร จะใช้พื้นที่ในเพจนี้มาบอกเล่าถึงขั้นตอนการรักษา และเนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ คุณแพรขอให้ผู้อ่านทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง และขอร่วมเป็นอีกหนึ่งพลังงานดี ๆ ส่งกำลังใจให้กับเพื่อนร่วมโรคทุกคนที่กำลังรู้สึกเหนื่อย และท้อแท้อยู่ รวมถึงคนที่รู้สึกว่าชีวิตกำลังเจอแต่เรื่องแย่ ๆ จงรวบรวมสติกลับมาให้ได้ พลังที่ดีที่สุดคือพลังจากตัวเราเอง