นักจุลชีววิทยา เลือก “อาบน้ำตอนไหน?” เช้าหรือเย็นที่สกปรกกว่า พลิกความเชื่อคนส่วนใหญ่!

เวลาอาบน้ำของคุณถูกต้องหรือไม่? เจาะลึกข้อแตกต่างระหว่างอาบเช้าและอาบเย็น – ทำไมผู้เชี่ยวชาญถึงเลือกอาบน้ำตอนเช้า

แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมีนิสัยอาบน้ำทั้งเช้าและเย็น แต่คำถามที่ยังถกเถียงกันอยู่ก็คือ “เวลาไหนที่ดีที่สุดในการอาบน้ำ?” เพราะยังมีหลายคนที่เลือกที่จะอาบเพียงแค่วันละครั้งเท่านั้น แล้วเคยสงสัยไหมว่า เวลาที่เราเลือกอาบน้ำนั้น “ถูกต้อง” หรือไม่? ความจริงแล้วระหว่าง “อาบน้ำตอนเช้า” กับ “อาบน้ำก่อนนอน” แบบไหนมีประโยชน์มากกว่ากัน?

ที่ผ่านมาพบว่า ฝ่ายที่เลือกอาบน้ำตอนเช้าเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นสมอง ให้รู้สึกสดชื่นพร้อมเริ่มต้นวันใหม่ ขณะที่กลุ่มที่ชอบอาบน้ำตอนเย็นเน้นว่า ช่วยผ่อนคลายก่อนนอน และเป็นการรักษาความสะอาดหลังจากกิจกรรมทั้งวัน อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนักจุลชีววิทยารายหนึ่งออกมาเผยว่า “การอาบน้ำตอนเช้าอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”

จากรายงานของ Daily Mail ดร.พริมโรส ฟรีสโตน (Primrose Freestone) อาจารย์อาวุโสด้านจุลชีววิทยาคลินิกจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ (University of Leicester) ประเทศอังกฤษ ได้เขียนบทความในเว็บไซต์ The Conversation อธิบายถึงข้อดี-ข้อเสีย ของการอาบน้ำในช่วงเช้าและเย็นอย่างน่าสนใจ พร้อมระบุว่าเธอเองเป็น “สายอาบน้ำตอนกลางวัน”

เธออธิบายว่า จุดประสงค์หลักของการอาบน้ำคือการชะล้างน้ำมัน เหงื่อ และสิ่งสกปรกบนผิวหนัง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดผื่น การติดเชื้อ และลดกลิ่นตัวในระหว่างวัน ผิวของเราจะสะสมเหงื่อ ไขมัน และสิ่งสกปรกจำนวนมาก ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรีย และอาจตกค้างบนผ้าปูที่นอนได้ง่าย การอาบน้ำตอนเย็นสามารถล้างสิ่งสกปรกเหล่านี้ออกไปก่อนขึ้นเตียง ซึ่งช่วยรักษาความสะอาดของที่นอนได้ระดับหนึ่ง แต่ ดร.ฟรีสโตน กล่าวว่า นั่นยังไม่เพียงพอ

“แม้คุณจะอาบน้ำสะอาดก่อนนอน ระหว่างที่หลับ ร่างกายก็ยังคงขับเหงื่อออกมา และจุลินทรีย์บนผิวหนังก็สามารถใช้เหงื่อเป็นแหล่งอาหารในการเจริญเติบโต” นอกจากนี้ ขณะนอนหลับ ร่างกายยังผลัดเซลล์ผิวอย่างต่อเนื่อง เศษผิวหนังเหล่านี้ถือเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของไรฝุ่น หากไม่ได้ซักเครื่องนอนเป็นประจำ ก็อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือกระตุ้นอาการหอบหืดได้

ดร.ฟรีสโตน สรุปว่า แม้จะไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัว แต่เธอเชื่อว่าการอาบน้ำตอนเช้าไม่เพียงแค่ช่วยล้างสิ่งตกค้างจากตอนกลางคืน แต่ยังช่วยลดกลิ่นตัว และทำให้รู้สึกสดชื่นมากกว่า อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกอาบน้ำเวลาใด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือควรซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพราะความสะอาดของที่นอนต่างหาก คือกุญแจสู่สุขภาพที่ดีและการนอนหลับที่มีคุณภาพ