ทีมสัตวแพทย์เตรียมแผนเคมีบำบัด หลังพบว่า “ต้าร์สอง” เสือโคร่ง เพศเมีย อายุ 17 ปี ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ระยะลุกลาม ซึ่งแพร่กระจายไปถึงปอดแล้ว
วันนี้ (6 มิ.ย. 68) ทีมสัตวแพทย์ ประกอบด้วย สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก, สพ.ญ.กิตติยาภรณ์ เอี่ยมสะอาด นายสัตวแพทย์ชำนาญการ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า, สพ.ญ.กานต์พิชชา หาญอาษา นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และสพ.ญ.ลันตา สวนประเสริฐ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกันวางยาสลบเสือโคร่ง เพศเมีย วัย 17 ปี ชื่อว่า “ต้าร์สอง” ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อตรวจสุขภาพอย่างละเอียด หลังพบความผิดปกติบริเวณเต้านม
จากการตรวจพบว่าเสือโคร่ง “ต้าร์สอง” มีก้อนเนื้อผิดปกติลักษณะขรุขระบริเวณเต้านม ส่วนการเอกซเรย์ปอดพบส่วนทึบแสงในเนื้อปอด ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ทีมแพทย์จึงได้เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ เลือด และสารคัดหลั่งเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม
ทาง สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก เผยว่า ทีมสัตวแพทย์ตัดสินใจไม่ผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออก เนื่องจากมะเร็งอยู่ในระยะแพร่กระจาย แต่เลือกใช้วิธีเคมีบำบัดแบบยากินแทน เพื่อควบคุมการลุกลามของโรคหลังจากการรักษาในวันแรก “ต้าร์สอง” สามารถฟื้นตัวจากยาสลบได้ปกติ กินน้ำและอาหารได้ตามปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการรักษาต่อไป ขณะนี้ “ต้าร์สอง” อยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมสัตวแพทย์ ขณะที่รอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวางแผนการรักษาในระยะต่อไป
ทั้งนี้ การดูแลรักษาเสือโคร่งสูงอายุเป็นความท้าทายใหม่สำหรับการอนุรักษ์สัตว์ป่าไทย โดยเฉพาะการรับมือกับโรคมะเร็งในสัตว์ป่าที่มีอายุยืน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการดูแลสุขภาพสัตว์ป่าของประเทศไทย