จากกรณีที่มีชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพราน ที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 861 ทำให้มีทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ทางชุดลาดตระเวน จึงได้วิทยุขอกำลังหน่วยแพทย์เข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยทั้ง 3 มีอาการบาดเจ็บข้อเท้า 1 นาย และบาดเจ็บเล็กน้อย 2 นาย อาการปลอดภัยทั้ง 3 นาย โดยหนึ่งในทหารที่บาดเจ็บคือ พลทหาร นายธนภัทร หุยวัน หรือ ชานนท์ อายุ 21 ปี เป็นคนบ้านตาตุม ต.ห้วยใต้ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเกณฑ์ทหารปีที่แล้ว อาสารับใช้ชาติ อยากเป็นทหาร กระทั่งโดนแรงระเบิด ทำให้ขาซ้ายขาด เข้ารับการผ่าตัดเมื่อคืนวันที่ 16 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา ตอนนี้น้องปลอดภัยแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (17 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านตาตุม หมู่ 9 ต.ห้วยใต้ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บขาขาด แต่ไม่พบพ่อและแม่ของพลทหาร เนื่องจากเดินไปเยี่ยมลูกชายที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี แต่ได้พบกับ นางเรียน บุญขาว อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นยาย นั่งร้องไห้อยู่ตลอดเวลาที่หน้าบ้าน โดยมีญาติ ๆ และส่วนราชการ มาค่อยนั่งให้กำลังคุณยายอยู่ที่บ้าน
อย่างไรก็ตาม คุณยายได้แต่พูดบอกว่าเป็นคนเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เด็ก บอกว่าหลานเป็นคนดีมาก คิดถึงหลานและเป็นห่วงหลานมาก ก่อนบอกกับผู้สื่อข่างทั้งน้ำตาว่า หลานถูกตัดขาข้างซ้าย ได้แต่ส่งกำลังใจไปให้หลาน บอกให้หลานสู้ ๆ จากนั้นคุณยายได้เข้าไปในบ้าน เพื่อไปค้นรูปถ่ายของหลานมาให้ผู้สื่อข่าวได้ดู และเอามากอดไว้ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วง
ด้าน นางสมร ศรีราชัย อายุ 55ปี ป้าของพลทหารที่บาดเจ็บ บอกว่า ทางครอบครัวทราบข่าวทางโทรศัพท์ เวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 16 ก.ค. 68 ซึ่งมีทหารโทรศัพท์มาบอก รู้เพียงว่า ชานนท์ เกิดอุบัติเหตุเหยียบกับระเบิด หลังจากนั้นยายชานนท์ได้วิ่งร้องไห้มาบอกตนว่า ชานนท์ เกิดอุบัติเหตุ และให้ตนช่วยไปบอกเจ้าที่เจ้าทาง ขอให้ ชานนท์ รอดปลอดภัย หลังจากนั้นตนได้ถามกับแม่ของน ชานนท์ ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงรู้ว่า ชานนท์ เหยียบกับระเบิด ตนก็รู้สึกตกใจและเสียใจมาก โดย แม่ ชานนท์ บอกว่า ชานนท์ ถูกตัดขาหนึ่งข้างแล้ว ตนจึงบอกให้พ่อแม่ชานนท์เตรียมตัวเพื่อที่จะไปดูลูกที่โรงพยาบาลที่ จ.อุบลราชธานี และบอกญาติพี่น้องให้ช่วยขับรถให้
นางสมร บอกด้วยว่า ชานนท์ สมัครเป็นทหารด้วยความชอบ และเป็นคนชอบอาสาช่วยเหลือคนอื่น พอปลดประจำการ ชานนท์ ก็สมัครไปเป็นทหารต่อ และชานนท์เป็นล่ามภาษาเขมรให้กับทหารไทยด้วย ก่อนที่จะสมัครใจไปเป็นทหารรับใช้ชาติ ชานนท์ ได้บวชเป็นพระก่อน เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต นิสัยใจคอของ ชานนท์ เป็นเด็กดีเรียบร้อย ชอบอาสาช่วยงานต่าง ๆ ในชุมชน ชานนท์ ถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว ที่พ่อแม่และยายฝากฝังชีวิตอนาคตไว้ด้วย โดยก่อนที่จะเกิดเหตุ 1 วัน ชานนท์ โทรศัพท์มาบอกแม่ และส่งเงินมาให้แม่ทำห้องให้ แม่ก็รีบจัดการทำห้องให้ แต่ยังไม่เสร็จ ทำได้เพียงวันกว่า ๆ ก็มาเกิดอุบัติเหตุก่อน ตนรู้สึกภูมิใจกับหลานคนนี้มาก พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้ว ตนอยากให้หน่วยงานช่วยเหลือหลาน ให้หลานเดินและใช้ชีวิตได้ อยากให้หลานมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต
