ผู้หญิงคนเดียวในโลกที่ “ถ่ายทอด” มะเร็งให้กับคนอื่นถึง 4 ราย ทั้งที่ไม่ใช่โรคติดต่อ!

ผู้หญิงคนเดียวในโลกที่ “ถ่ายทอด” มะเร็งให้กับคนอื่นถึง 4 ราย แค่เพราะบริจาคอวัยวะด้วยเจตนาดี กลับส่งต่อโรคร้ายโดยไม่รู้ตัว

โดยปกติแล้ว มะเร็งไม่ใช่โรคติดต่อ และไม่สามารถแพร่จากคนหนึ่งไปยังอีกคนได้เหมือนไวรัสหรือแบคทีเรีย แต่เรื่องราวนี้กลับกลายเป็นข้อยกเว้นที่น่าตกตะลึง

เรื่องราวเกิดขึ้นในยุโรป เมื่อปี 2007 หญิงวัย 53 ปีเสียชีวิตจากอาการเลือดออกในสมอง ก่อนเสียชีวิต เธอได้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะไว้ด้วยความตั้งใจดี แพทย์จึงนำอวัยวะของเธอไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วย 4 ราย ได้แก่ ปอด, ตับ, ไตข้างขวา และไตข้างซ้าย

ก่อนการปลูกถ่าย อวัยวะทั้งหมดได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่มีร่องรอยของมะเร็ง หรือความผิดปกติใดๆ ผู้รับอวัยวะทั้ง 4 รายมีอายุระหว่าง 32 ถึง 62 ปี การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี และอาการผู้ป่วยก็ค่อยๆ ฟื้นตัว

แต่แล้ว…เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น พบมะเร็งหลังปลูกถ่าย ซึ่งมาจากผู้บริจาค!

16 เดือนต่อมา ผู้รับปอดเข้ารับการรักษาเนื่องจากต่อมน้ำเหลืองบวมหลายจุด ผลตรวจชี้ว่าเป็นมะเร็งเต้านมชนิดแพร่กระจาย ที่สำคัญคือเซลล์มะเร็งไม่ใช่ของผู้ป่วยเอง แต่เป็นของผู้บริจาค

อวัยวะที่ปลูกถ่ายนั้น มีเซลล์มะเร็ง “แฝงอยู่” โดยไม่สามารถตรวจพบในตอนแรก พอย้ายมาอยู่ในร่างกายใหม่ ซึ่งต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการต่อต้านอวัยวะ เซลล์มะเร็งก็เติบโตอย่างรวดเร็ว ลุกลามไปยังกระดูกและตับ ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในปีต่อมา

หลังจากนั้น แพทย์รีบแจ้งเตือนผู้รับอวัยวะที่เหลือ และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด แม้จะดูเหมือนไม่มีปัญหา แต่ 4 ปีต่อมา ผู้ป่วยที่ได้รับตับก็พบว่ามีก้อนเนื้อในร่างกาย เป็นมะเร็งเต้านมเช่นกัน ในช่วงเวลาใกล้กัน ผู้ที่ได้รับไตข้างซ้ายก็ตรวจพบเซลล์มะเร็ง

ส่วนคนที่รับไตข้างขวา ซึ่งตอนแรกเป็นเพียงคนเดียวที่ยังไม่พบความผิดปกติ จนกระทั่ง 2 ปีถัดมา (รวมเป็น 6 ปีหลังปลูกถ่าย) ก็เริ่มมีอาการน้ำหนักลด และผลตรวจพบว่า มะเร็งเต้านมลุกลามไปยังตับ ม้าม และกระดูก

จากผู้ป่วย 4 คนที่ได้รับอวัยวะ มีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต คือผู้รับไตขวา ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 30 กว่าๆ เขารีบตัดไตที่ปลูกถ่ายออก หยุดใช้ยากดภูมิ และรับการรักษาด้วยเคมีบำบัดและยาตรงเป้า (targeted therapy) ปัจจุบันอาการยังอยู่ในการควบคุม แต่เขายังคงต้องรอการปลูกถ่ายไตใหม่อีกครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า การ “ติดเชื้อมะเร็ง” ผ่านการปลูกถ่ายอวัยวะเกิดขึ้นได้น้อยมาก โอกาสเพียง 0.01%–0.05% เท่านั้น เพราะขั้นตอนคัดกรองก่อนปลูกถ่ายเข้มงวดมาก แต่หากเซลล์มะเร็งซ่อนอยู่ในอวัยวะโดยยังมีขนาดเล็ก ไม่สามารถตรวจพบได้ในเวลานั้น ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นอยู่

เคสที่โลกต้องจดจำ กรณีหายาก แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้!

  1. เป็นครั้งแรกที่มีการ “ถ่ายทอดมะเร็งเต้านม” ให้กับผู้รับอวัยวะถึง 4 คนในคราวเดียวกัน
  2. ระยะฟักตัวของโรคแตกต่างกันมาก ผู้ป่วยรายแรกตรวจพบหลัง 16 เดือน แต่รายสุดท้ายใช้เวลานานถึง 6 ปี
  3. ชี้ให้เห็นความสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน เซลล์มะเร็งอาจถูกกดไว้ได้ในร่างกายคนหนึ่ง แต่เมื่อย้ายไปยังคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนลง (จากการใช้ยากดภูมิ) เซลล์มะเร็งก็สามารถเติบโตอย่างรวดเร็ว

บทเรียนจากเรื่องนี้คือ ดูแลภูมิคุ้มกัน = ป้องกันมะเร็ง แม้เราไม่อาจควบคุมการเกิดเซลล์มะเร็งได้ทั้งหมด แต่สามารถรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพื่อควบคุมไม่ให้มะเร็งลุกลาม โดยพักผ่อนให้เพียงพอ, หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ, กินอาหารที่มีประโยชน์ และตรวจสุขภาพประจำปี เพราะเมื่อภูมิคุ้มกันดี เซลล์มะเร็งก็แทบไม่มีโอกาส “ตื่น” ขึ้นมาได้