เหตุการณ์ชวนสะเทือนใจเกิดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อเด็กหญิงวัย 7 ขวบที่เคยชื่นชอบการว่ายน้ำอย่างมาก กลับเริ่มแสดงพฤติกรรมต่อต้าน ไม่ยอมไปเรียนว่ายน้ำแบบเดิม ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเรียนแบบตัวต่อตัวกับโค้ชมาเกือบ 1 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ของเด็กตัดสินใจเข้าไปดูการเรียนการสอนด้วยตัวเอง และได้พบกับภาพที่ทำให้เธอถึงกับใจสลาย
แม่รู้สึกผิดปกติเมื่อ “ลูกกลัวน้ำ” ก่อนรู้เบื้องหลังช็อก
แม่ของเด็กหญิงรายนี้เปิดเผยกับสื่อว่า ลูกสาวของเธอเรียนว่ายน้ำที่ สระว่ายน้ำซื่อจิง (市京游泳館) ในเขตหยางผู่ เซี่ยงไฮ้ โดยมีโค้ชส่วนตัวดูแลอย่างใกล้ชิด แต่เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน ลูกสาวเริ่มไม่อยากไปเรียน บอกแค่ว่า “โค้ชชวนหนูดื่มน้ำ” ซึ่งทำให้แม่รู้สึกแปลกใจและตัดสินใจเข้าไปสังเกตการณ์ในวันที่ 17 สิงหาคม
ในวันเกิดเหตุ แม่ของเด็กนั่งอยู่บริเวณที่พักผู้ปกครองที่อยู่ห่างจากสระว่ายน้ำ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกสาว จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาขยายภาพดู และสิ่งที่เห็นคือภาพที่โค้ชใช้มือกดหัวลูกสาวเธอลงน้ำโดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้นเมื่อเด็กโผล่ขึ้นมา โค้ชยังผลักเธออย่างแรงไปยังขอบสระ ทำให้เด็กหญิงร้องไห้โฮและวิ่งออกจากสระทันที
โค้ชและสระว่ายน้ำตอบโต้ ยื่นข้อเสนอชดเชยที่ยังไม่ลงตัว
หลังเกิดเหตุ แม่ได้นำเหตุการณ์ไปแสดงต่อผู้ดูแลสระว่ายน้ำ แต่กลับได้รับคำตอบว่า “เป็นพฤติกรรมตามปกติของการสอน” และยืนยันว่าโค้ชยังสอนลูกชายตัวเองในลักษณะเดียวกัน
ขณะที่โค้ชคนดังกล่าวอธิบายว่า สระว่ายน้ำมีความลึกเพียง 1.6 เมตร การกดเด็กลงไปเพื่อให้รู้ว่าแม้จะจมน้ำแต่ก็สามารถเขย่งเท้าให้พ้นน้ำได้ เป็นการช่วยให้เด็ก “เอาชนะความกลัว” ส่วนการผลักเด็กไปยังขอบสระก็เพื่อให้เด็กขึ้นจากน้ำและว่ายใหม่อีกครั้ง
เมื่อประเด็นกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมมากขึ้น ผู้บริหารของสระว่ายน้ำซื่อจิงได้ออกมาแสดงความเสียใจ และยื่นข้อเสนอชดเชยเป็นการเรียนฟรีอีก 3 คาบ พร้อมเปลี่ยนโค้ชเป็นผู้หญิงแทน แต่ทางผู้ปกครองยังไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว
ฝ่ายครอบครัวของเด็กหญิงได้เรียกร้องให้คืนเงินคอร์สเรียนที่เหลืออีก 10 คาบ พร้อมเรียกร้องค่าชดเชยด้านจิตใจเพิ่มเติม ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังคงอยู่ระหว่างการเจรจา