นางทาส 2025 ถูกนายจ้างโหดทำร้ายทารุณกรรม เฆี่ยนตีมานานกว่า 5 ปี ถูกกล่าวหาว่าลักทรัพย์ ร้อง กัน จอมพลัง ให้ช่วยเหลือ หวั่นเพื่อนอีกคนจะไม่ปลอดภัย หลังขาดการติดต่อ
วันนี้ ( 26 ก.พ.68) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหาย อายุ 22 ปี เป็นอดีตสาวใช้ของบ้านหลังหนึ่งย่านบางกรวย เดินทางไปที่ สภ.บางกรวย เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ที่ถูกนายจ้างทำร้ายร่างกาย ทารุณกรรม หวั่นจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะนายจ้างขู่ว่ารู้จักกับตำรวจ รวมถึงประสานตำรวจให้ช่วยติดต่อพยานที่ยังเป็นสาวใช้อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว หลังขาดการติดต่อไป เกรงจะไม่ปลอดภัย
ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้นายจ้างได้ไปหาคนทำงานที่หมู่บ้านตนเอง และได้หลานสาวของตนไปทำงานก่อน แต่ทำได้พักเดียวก็กลับมา ไม่ได้ไปทำงานต่อ แต่หลานสาวไม่ได้เล่าสาเหตุให้ฟัง ตนจึงได้ติดต่อไปยังนายจ้าง ว่าต้องการรับสาวใช้คนใหม่หรือไม่ จนได้เข้าทำงานเมื่อ 5 ปีก่อน โดยตกลงเงินเดือนว่า 6 เดือนแรก จะได้เงินเดือนละ 6,000 บาท จากนั้นจะได้เดือนละ 9,000 บาท แต่นายจ้างกลับจ่ายเงินให้แค่ 6 เดือนแรก หลังจากนั้นก็ไม่จ่ายอีก อ้างว่าจะเก็บไว้ให้เป็นเงินก้อนใหญ่ และให้ทีเดียวตอนตนกลับบ้าน ล่าสุดที่ทวงถามไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2567 ประมาณ 2.7 แสนบาท ตนเชื่อใจคิดว่าจะเก็บไว้ให้จริง แต่ไม่เคยได้เงินดังกล่าว
ต่อมาเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เริ่มถูกนายจ้างทำร้ายร่างกาย ทุบตีศีรษะ ให้ถอดเสื้อและเอาไม้ฟาดกว่า 100 ครั้ง เพราะนายจ้างให้ไลฟ์ขายของออนไลน์ เนื่องจากทำธุรกิจขายของแบรนด์เนม นอกจากนี้ยังเคยถูกน้ำแกงสาด เพราะตนทำกับข้าวน้อย ไม่พอให้คนในบ้านกิน และยังถูกยึดโทรศัพท์ บัตรประชาชน ไม่ให้ติดต่อญาติพี่น้อง กระทั่งครั้งหนึ่ง ตนเคยแอบหยิบโทรศัพท์ของนายจ้างโทรหาญาติ แต่ถูกนายจ้างจับได้ และแจ้งความลงบันทึกประจำวันกล่าวหาว่าลักทรัพย์ ซึ่งเหตุทำร้ายร่างกาย มีคลิปกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นหลักฐาน แต่ตนไม่กล้าแจ้งความ เพราะนายจ้างขู่ว่ารู้จักกับตำรวจ สภ.บางกรวย และเคยเห็นนายจ้างนำของแบรนด์เนมมาให้ตำรวจด้วย แต่ตนไม่รู้ว่าตำรวจคนนั้นเป็นใคร
ล่าสุดวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนทนไม่ไหวตัดสินใจหนีออกจากบ้านนายจ้าง เพราะกลัวจะไม่มีชีวิตรอด และได้หยิบบัตรประชาชนของตัวเอง จากตู้ในบ้านออกมาด้วย แต่กลับถูกนายจ้างนำกล้องวงจรปิดขณะที่ตนเองหยิบบัตรประชาชน มาใส่ร้ายว่ากำลังหยิบทอง 1 บาทออกมาด้วย ตนยืนยันว่าไม่ได้ขโมยทรัพย์สินใดๆ ของนายจ้างออกมา ส่วนทอง 1 บาท นั้นนายจ้างเป็นคนให้ตนเองเอาไปขาย ได้เงินมา 30,000-40,000 บาทเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือคดีของเพื่อนนายจ้าง และได้นำเงินเข้าบัญชีนายจ้างไปแล้ว
ด้าน “กัน จอมพลัง” บอกว่า คดีนี้มีพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่ที่นายจ้างแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เสียหาย เรื่องลักทรัพย์ และตำรวจ สภ.บางกรวยทำงานเร็วมาก ใช้เวลาเพียง 4 วัน ออกหมายจับ และส่งหมายไปที่บ้านนายจ้าง เพราะผู้เสียหายอยากเรียนหนังสือ นายจ้างจึงให้นำชื่ออใส่ไว้ในทะเบียนบ้านนายจ้าง โชคดีที่มีเพื่อนสาวรับใช้เห็นหมาย และส่งข่าวให้ผู้เสียหายทราบ จึงประสานมาที่ตน เพื่อให้พาเข้ามอบตัว ตนจึงประสานทนาย และตำรวจ สภ.บางกรวยมาแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจกลับไปจับกุมผู้เสียหายที่ย่านสายไหม โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าผู้เสียหายจะมอบตัว น่าจะเกิดการสื่อสารผิดพลาด ตนจึงประสานกระทรวงยุติธรรมให้มาประกันตัวผู้เสียหาย แต่กลับถูกนายจ้างชิงมาประกันตัวก่อน และตำรวจก็ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าผู้เสียหายยินยอม
ส่วนทองที่นายจ้างบอกว่าผู้เสียหายเอาไป ตำรวจไม่เจอของกลาง แต่เป็นนายจ้างที่ให้ ผู้เสียหายเอาทองไปขาย และได้นำเงินเข้าบัญชีนายจ้าง ซึ่งสามารถตรวจสอบกับทางธนาคารได้ ดังนั้นถ้าผู้เสียหายไม่ได้เอาของไปจริง จะเป็นการยัดคดีให้ผู้เสียหายหรือไม่ ส่วนการทำร้ายร่างกาย ได้ให้ผู้เสียหายแจ้งความกลับนายจ้างฐานทำร้ายร่างกายไปแล้ว เมื่อสอบถามตำรวจ สภ.บางกรวย ว่าจะออกเป็นหมายเรียก หรือหมายจับ ก็ได้รับคำตอบว่าจะออกเป็นหมายเรียกก่อน เพราะนายจ้างมีอาชีพมั่นคง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ซึ่งตนเห็นว่าไม่เท่าเทียม เพราะผู้เสียหายเป็นสาวใช้ถูกออกหมายจับ แต่นายจ้างกลับออกหมายเรียก จึงได้ประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ต่อมาตำรวจจะออกเป็นหมายจับ และไปจับนายจ้างที่บ้าน แต่สุดท้ายให้ประกันตัวนายจ้างในชั้นพนักงานสอบสวน ทั้งที่คดีนายจ้างทารุณกรรมลูกจ้างอื่น ๆ ที่ตนเองเคยช่วยเหลือ ตำรวจจะไม่ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
และตอนนี้เป็นห่วงพยานอีกคนที่เป็นเพื่อนกับผู้เสียหาย ที่ยังทำงานเป็นสาวใช้ในบ้านนายจ้าง ที่ขาดการติดต่อไป เกรงจะไม่ปลอดภัย หากช่วยเหลือพยานคนนี้ออกมาได้ และไม่มีงานทำ ตนเองก็พร้อมจะช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตามวันนี้ผู้กำกับ และรองผู้กำกับการ สภ.บางกรวย ติดภารกิจ ไม่อยู่รับเรื่อง ทำให้รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สภ.บางกรวย รับเรื่องแทน โดยยืนยันจะรายงานผู้บังคับบัญชา และรับดำเนินการทุกอย่างที่ผู้เสียหายยังติดใจ รวมถึงจะส่งสายตรวจไปตรวจสอบพยานที่เป็นสาวใช้อีกคนว่ายังปลอดภัยดีหรือไม่
