คืบหน้า เหตุไฟไหม้ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ จ.สระแก้ว คาดความเสียหายนับ 100 ล้าน รวมกว่า 56 ร้านค้า สาเหตุเบื้องต้นคาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ร้อย ทพ.1201 พร้อมด้วยรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองอรัญประเทศ, เทศบาลตำบลป่าไร่, รถน้ำจาก ชค.ทพ.12 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอรัญประเทศ รีบรุดไปช่วยระงับเหตุเพลิงไหม้
โดยที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นตลาดเทศบาล 3 (ตลาดโกลเด้นเกต) บริเวณทางลงประตู 2 เป็นอาคารห้องเช่าชั้นเดียวล็อก A และล็อก R ลักษณะคล้ายห้องแถวแบ่งเป็นล็อกให้เช่าโดยมีผนังเป็นไม้อัด มีประตูม้วนเป็นเหล็ก เปิด-ปิด ด้านหน้าหลังคาเป็นสังกะสี เป็นร้านค้าขายสินค้าประเภท กระเป๋า รองเท้ามือสอง ผ้าห่ม และเสื้อผ้า ส่วนใหญ่เจ้าของร้านเป็นชาวกัมพูชา ที่เข้ามาค้าขายแบบไปเช้า-เย็นกลับ ไม่มีผู้พักอาศัย ซึ่งเพลิงได้โหมไหม้ร้านค้าซึ่งมีสินค้ามือสองที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟโหมแรงขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำดับเพลิงนานกว่า 1 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต (อ่านข่าว : ระทึกกลางดึก เกิดเหตุไฟไหม้ตลาดโรงเกลือ เสียหายหนัก-ยังไม่รู้สาเหตุ)

แต่เพลิงก็เผาร้านค้าวอดถึง 56 คูหา มีทรัพย์สินที่เป็นสินค้ามือสอง ซึ่งบางร้านเป็นสินค้าแบรนด์เนมมือสอง ถูกเพลิงเผาไปเป็นเถ้าถ่านจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถประเมินค่าทรัพย์สินที่เสียหายได้แน่ชัดเนื่องจากเจ้าของร้านค้าเป็นชาวกัมพูชา ต้องรอสอบสวนเจ้าของร้านเสียก่อน คาดความเสียคร่าวๆ นับ 100 ล้านบาท ส่วนสาเหตุเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากไม่มีผู้พักอาศัย แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อมาตรวจสอบอีกครั้ง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดโรงเกลืออรัญประเทศ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ พบกับ นายวัชรินทร์ อรัญเจริญยิ่ง นายกเทศมนตรีเมืองอรัญประเทศ กำลังลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเบื้องต้น จากการเดินสำรวจ พบว่ายังคงมีกลิ่นเหม็นของเศษรองเท้าและกระเป๋าคละคลุ้งอยู่ทั่วบริเวณ และเช้านี้เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันทยอยเดินทางมาดูร้านค้าของตน ซึ่งบางคนถึงกับเข่าทรุดเมื่อมาเห็นสภาพร้านของตนที่ถูกไฟไหม้คงเหลือแต่เศษรองเท้า กระเป๋า ที่ดำแทบจะเป็นถ่าน

จากนั้นนายวัชรินทร์ อรัญเจริญยิ่ง นายกเทศมนตรีเมืองอรัญ ได้พาทีมข่าวเดินไปชี้ยังจุดคาดว่าจะเป็นต้นเพลิง ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร นายวัชรินทร์ นายกเทศมนตรีเมืองอรัญ ได้ฝากย้ำเตือนอยากให้พ่อค้าแม่ค้าได้ช่วยกันเฝ้าระวังรวมถึงการจุดธูป จุดเทียน ศาลเจ้าที่พ่อค้าแม่ค้าได้นำมาตั้งไว้ในร้านก็ต้องคอยดูให้ดี เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วพ่อค้าแม่ค้าไม่ได้พักอาศัยอยู่ฝั่งไทย พอเกิดเหตุจึงทำให้ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ทันที อีกทั้งยังมีการล็อกกุญแจไว้อย่างแน่นหนา เมื่อเกิดเหตุทำให้การเข้าดับไฟล่าช้า

ด้าน น.ส. วิกกี้ อายุ 34 ปี ชาวกัมพูชา ได้เดินทางรีบมาดูร้านของตัวเอง ซึ่งโชคดีที่ไฟยังไหม้ไปไม่ถึงร้านของตนแต่ก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนๆ พ่อค้าแม่ค้าและก็มาให้กำลังใจเพื่อนๆ ตนเองรู้สึกสงสารเพราะบางคนเขาก็หมดเนื้อหมดตัวเลยทีเดียว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ประปาอรัญประเทศได้นำน้ำดื่มมาแจกจ่ายให้กับพ่อค้าแม่ค้าและเจ้าหน้าที่ได้ดื่มกันก่อนเบื้องต้น.
